วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ชื่อไวรัสบอกอะไรได้บ้าง

เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าชื่อของไวรัสที่เห็นทั่วไปนั้นมีความหมายว่าอย่างไร ทำไมบริษัทที่พัฒนาโปรแกรมป้องกันไวรัสจึงตั้งชื่อแตกต่างกันไป ทั้งๆ ที่ไวรัสที่ค้นพบนั้นเป็นตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตามแม้ว่าชื่อจะเขียนไม่เหมือนกันทุกตัวอักษร แต่ความหมายที่แปลได้จากชื่อนั้นเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น W32.Klez.h@mm W32/Klez.h@MM WORM_KLEZ.H I-Worm.Klez.h เป็นต้น บทความนี้จะอธิบายถึงส่วนต่างๆ ของชื่อไวรัส เพื่อทำให้ผู้อ่านสามารถจำแนกแยกแยะประเภทของไวรัสจากชื่อของไวรัส ความสามารถเด่นๆ ตลอดจนวิธีการแพร่กระจายตัวของไวรัสได้
ส่วนประกอบของชื่อไวรัสนั้นแบ่งได้เป็นส่วนๆ ดังนี้

ภาพแสดงส่วนประกอบต่างๆของไวรัส

1. ส่วนแรกแสดงชื่อตระกูลของไวรัส (Family_Names) ส่วนใหญ่จะตั้งตามชนิดของปัญหาที่ไวรัสก่อขึ้น หรือภาษาที่ใช้ในการพัฒนา เช่น เป็นม้าโทรจัน ถูกพัฒนาด้วย Visual Basic scripts หรือเป็นไวรัสที่รันบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 32 บิต เป็นต้น ซึ่งชื่อของตระกูลของไวรัสที่ค้นพบในปัจจุบัน

แสดงรายชื่อตระกูลของไวรัส

WM ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม

Word W97M ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Word 97

XM ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Excel

X97M ไวรัสที่เป็นมาโครของโปรแกรม Excel 97

W95 ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 95

W32/Win32 ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 32 บิต

WNT ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ NT 32 บิต

I-Worm/Worm หนอนอินเทอร์เน็ต

Trojan/Troj ม้าโทรจัน

VBS ไวรัสที่ถูกพัฒนาด้วย Visual Basic Script

AOL ม้าโทรจัน America Online

PWSTEAL ม้าโทรจันที่มีความสามารถในการขโมยรหัสผ่าน

Java ไวรัสที่ถูกพัฒนาด้วยภาษาจาวา

Linux ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการลินุกซ์

Palm ไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบปฏิบัติการ Palm OS

Backdoor เปิดช่องให้ผู้บุกรุกเข้าถึงเครื่องได้

HILLW บ่งบอกว่าไวรัสถูกคอมไพล์ด้วยภาษาระดับสูง

2. ส่วนชื่อของไวรัส (Group_Name) เป็นชื่อดั้งเดิมที่ผู้เขียนไวรัสเป็นคนตั้ง โดยปกติจะถูกแทรกไว้อยู่ในโค้ดของไวรัส และในส่วนนี้เองจะเอามาเรียกชื่อไวรัสเปรียบเสมือนเรียกชื่อเล่น ตัวอย่างเช่น ชื่อของไวรัสคือ W32.Klez.h@mm และจะถูกเรียกว่า Klez.h เพื่อให้สั้นและกระชับขึ้น

3. ส่วนของ Variant รายละเอียดส่วนนี้จะบอกว่าสายพันธุ์ของไวรัสชนิดนั้นๆ มีการปรับปรุงสายพันธุ์จนมีความสามารถต่างจากสายพันธุ์เดิมที่มีอยู่ variant มี 2 ลักษณะคือ

Major_Variants จะตามหลังส่วนชื่อของไวรัส เพื่อบ่งบอกว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่นหนอนชื่อ VBS.LoveLetter.A (A เป็น Major_Variant) แตกต่างจาก VBS.LoveLetter อย่างชัดเจน

Minor_Variants ใช้บ่งบอกในกรณีที่แตกต่างกันนิดหน่อย ในบางครั้ง Minor_Variant เป็นตัวเลขที่บอกขนาดไฟล์ของไวรัส ตัวอย่างเช่น W32.Funlove.4099 หนอนชนิดนี้มีขนาด 4099 KB.

4. ส่วนท้าย (Tail) เป็นส่วนที่จะบอกว่าวิธีการแพร่กระจาย ประกอบด้วย

@M หรือ @m บอกให้รู้ว่าไวรัสหรือหนอนชนิดนี้เป็น "mailer" ที่จะส่งตัวเองผ่านทางอี-เมล์เมื่อผู้ใช้ส่งอี-เมล์เท่านั้น

@MM หรือ @mm บอกให้รู้ว่าไวรัสหรือหนอนชนิดนี้เป็น "mass-mailer" ที่จะส่งตัวเองผ่านทุกอี-เมล์แอดเดรสที่อยู่ในเมล์บอกซ์ ตัวอย่าง W32.HILLW.Lovgate.C@mm

แสดงว่าอยู่ในตระกูลที่มีผลต่อระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 32 บิต และถูกคอมไพล์ด้วยภาษาระดับสูง

ชื่อของไวรัสคือ Lovgate

ที่มี variant คือ C

มีความสามารถในการแพร่กระจายผ่านทางอี-เมล์โดยส่งไปยังทุกอี-เมล์แอดเดรสที่อยู่ในเมล์บอกซ์

จากส่วนประกอบของชื่อไวรัสที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น จะเห็นได้ว่าชื่อของไวรัสนั้นสามารถบอกถึงประเภทของไวรัส ชื่อดั้งเดิมของไวรัสที่ผู้เขียนไวรัสเป็นคนตั้ง สายพันธุ์ต่างๆ ของไวรัสที่ถูกพัฒนาต่อไป และวิธีการแพร่กระจายตัวของไวรัสเองด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น